อุปกรณ์
เปลือกไข่ไก่
ถาดใส่ไข่
สำลี
ดินปลูก/มูลไส้เดือน
เมล็ดถั่วเขียว
ช้อนพลาสติกสำหรับตักดิน
บัวรดน้ำ
วิธีการ
1. ใช้วัสดุปลายแหลมเจาะรูตรงด้านล่างเปลือกไข่เพื่อให้น้ำส่วนเกินระบายออกได้ป้องกันรากเน่า จากนั้นฉีกสำลีเป็นก้อนเล็กๆใส่ลงในเปลือกไข่รองก้นไว้กันดินไหลออก
2. จากนั้นใช้ช้อนพลาสติกตักดินปลูกที่เตรียมไว้ใส่ลงในเปลือกไข่แต่ละใบจนเกือบเต็ม ใส่ไปเคาะถาดไข่ไปด้วยดินจะได้แน่นหน่อยเวลารดน้ำจะได้ไม่ยุบมากนะคะ วันนี้หวานลองใช้มูลไส้เดือนดู ตอนที่ซื้อจากคนขายเขาบอกว่าถ้าใช้เป็นวัสดุเพาะ เมล็ดพืชจะงอกเร็วค่ะ
3. ใช้ปลายช้อนจิ้มบนดิน 2-3 หลุมลึกประมาณ 0.5 ซม. แล้วหยอดเมล็ดถั่วเขียวลงหลุมละ 1 เม็ดเพื่อที่เวลางอกต้นถั่วจะได้ไม่เบียดและแย่งอาหารกัน ตรงนี้หวานถือโอกาสฝึกปั้นสิบนับเม็ดถั่วด้วยค่ะ ว่าในไข่แต่ละฟองจะให้หยอดกี่เม็ดก็ให้เค้าหยอดและนับจำนวนไปด้วย
4. เมื่อหยอดเมล็ดถั่วจนครบแล้วก็กลบดินอีกเล็กน้อยป้องกันนกมาจิกกินเมล็ดถั่ว จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ๆแสงแดดส่องถึงรำไรและรดน้ำพอชุ่ม ตรงนี้ต้องช่วยลูกด้วย เพราะเค้าอาจเทน้ำรวดเดียวจนท่วมเยอะไป ต้องค่อยบอกด้วยแค่ไหนพอ แล้วให้รดที่อื่นๆให้ทั่วถึงกันด้วย
5. เมื่อปลูกเสร็จแล้วก็ให้ปั้นสิบคอยสังเกตุ และหมั่นรดน้ำทุกวันค่ะ โดยหวานช่วยบันทึกการเจริญเติบโตของต้นถั่วในแต่ละวันให้เค้า (สำหรับเด็กโตหน่อยก็ให้เค้าบันทึกเองก็ได้ค่ะ) ตรงนี้ปั้นสิบจะตื่นเต้นมาก ทุกเช้าเค้าจะกระตือรือร้นที่จะมาดูผลงานที่ปลูกไว้ว่าต้นถั่วโตขนาดไหนแล้ว ระหว่างนั้นก็จะมีคำถามเช่น "ต้นถั่วทำไมถึงโต?" หวานก็จะได้มีโอกาสสอนเค้าเกี่ยวกับวงจรชีวิตพืชไปด้วยในตัว วันที่ 1
วันที่ 2
วันที่ 3
วันที่ 4
วันที่ 5
ในแต่ละวันต้นถั่วเขียวโตเร็วมากโดยเฉพาะวันที่ 2-4 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนจนหวานเองยังตกใจเลยคะว่ามันโตเร็วมากจริงๆ ปั้นสิบจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงขนาดหม่าม๊ายังตื่นเต้นเลย นึกแล้วก็อดคิดถึงความหลังสมัยเรียนประถมไม่ได้จริงๆค่ะ ว่าแล้วระหว่างนี้ก็หาพืชผักสวนครัวชนิดอื่นๆมาปลูกเพิ่มดีกว่า ^_^
ปล. ตอนนี้ลงภาพบันทึกการเจริญเติบโตถึงแค่วันที่ 5 ก่อน เพราะหลังจากนี้ต้นถั่วก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ว่าจะรอดูจนออกดอกออกฝักแล้วจะมาอัพรูปเพิ่มเติมนะคะ
